ลิเวอร์พูล เปิดบ้าน ถล่มเละ ทีมสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปได้ ในสกอร์ 7-0 ของ ศึกดาร์บี้ พรีเมียร์ลีก ประเทศ อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ 5 มีนาคม พ.ศ. 2566

ลิเวอร์พูล ซัดเละ แมนฯยู 7-0 ศึกดาร์บี้ พรีเมียร์ลีก

ลิเวอร์พูล เปิดบ้าน ถล่มเละ ทีมสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปได้ ในสกอร์ 7-0 ของ ศึกดาร์บี้ พรีเมียร์ลีก ประเทศ อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ 5 มีนาคม พ.ศ. 2566

ตามรายงาน สำนักงาน ข่าวฟุตบอล ต่างประเทศ ได้มีการเปิดเผย ข้อมูล ออกมาด้วยว่า ทีมสโมสร ลิเวอร์พูล ที่สามารถสร้างประวัติศาสตร์ กับชัยชนะ ที่ถล่ม แมนฯ ยูไนเต็ด ไปมากถึง 7 – 0  ทำให้มีโอกาสจบสี่อันดับ ตารางคะแนน

ฤดูกาลนี้ เป็นหนึ่งในบททดสอบ และ ทีมสโมสร ลิเวอร์พูล กับ แฟนๆ บอลที่ติดตาม ที่ก่อนหน้านี้ ต้องพบเจอ กับความยากลำบากมาเป็นระยะ แต่ตอนนี้ กับเจอแสงสว่าง ที่ปลายอุโมงค์ซะแล้วหล่ะสิ เพราะลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้ทำผลงาน ที่บอกเลยว่าน่าตื่นตาตื่นใจ ที่สนามแอนฟิลด์

ความจริงแล้ว ทีมสโมสร ลิเวอร์พูล ก็เป็นหนึ่ง ในสโมสร ที่จัดว่าเป็น ทีมยักษ์ใหญ่ ที่หลายคนก็บอกว่า เป็นสโมสรใหญ่ ที่สุดในโลกด้วย แล้วก็จึงไม่ได้แปลกใจอะไรเลย ที่สามารถคว้าชัยชนะ อีกครั้ง ที่ยิ่งใหญ่มาได้ ในเกมการแข่งขัน แมตซ์นี้ ที่เอาชนะ ปีศาจแดง มาได้ 7-0

ย้อนกลับไป เกมการแข่งขัน ของ ทีมสโมสร Liverpool ที่เคยเกิดขึ้นแล้ว และ ก็เป็น ครั้งยิ่งใหญ่ ที่สุด ในปี ค.ศ. 1974 เมื่อสามารถเอาชนะ สตรอมก็อดเซต มือสมัครเล่นชาวนอร์เวย์ 11-0 ในรอบแรกของ ศึกยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ

ลิเวอร์พูล เปิดบ้าน ถล่มเละ ทีมสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปได้ ในสกอร์ 7-0 ของ ศึกดาร์บี้ พรีเมียร์ลีก ประเทศ อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ 5 มีนาคม พ.ศ. 2566


ลิเวอร์พูล มาดูสถิติ ของ หงส์แดง ที่ได้เคย คว้าชัยชนะ เกมการแข่งขัน ที่ได้เป็น ประว้ติศาสตร์ ครั้งยิ่งใหญ่ ที่สุด ในการแข่งขัน ศึกพรีเมียร์ลีก ประเทศ อังกฤษ ทั้งหมด ตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1995

  • ปี ค.ศ.1995 ซึ่งก็ นานมากแล้ว ทีมสโมสร ลิเวอร์พูล สามารถที่จะ เอาชนะ ทีม สโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปได้ ในสกอร์  6 – 0
  • ซึ่งตอนนั้น หงส์แดง สามารถ ยิงประตู ขึ้นนำไปได้ก่อน 2 ประตู ในเวลา เพียงแค่ 5 นาที และ ก็ทำประตู ขึ้นนำ ได้อีก 4 ประตู ใน เกมการแข่งขัน ของครึ่งเวลาหลัง
  • สามารถเอาชนะ ทีมสโมสร อิปสวิช ไปได้ในสกอร์  6 – 0  ในปี ค.ศ. 2002 ที่ตอนนั้น หงส์แดง ก็กำลัง รวบรวม ความท้าทาย ในการคว้าแชมป์ เมื่อต้นปี 2002
  • แล้วเกมการแข่งขันนี้ ก็บุกไปเยือน สโมสร อิปสวิช เกมการแข่งขัน ในวันนั้น ที่เจ้าบ้าน ไม่สามารถรับมือกับ กองหน้าคู่หู นักเตะ เอมิล เฮสกีย์ และ นักเตะ ไมเคิ่ล โอเว่น ที่บอกเลยว่า เป็นกองหน้า ที่เล่นได้เข้าขา กันมาก
  • เอาชนะ ทีมสโมสร เวสต์บรอมวิช ไปได้ในสกอร์ 6 – 0 ในปี ค.ศ. 2003 ที่นักเตะ ตำแหน่ง กองหน้า อย่าง ไมเคิล โอเว่น ที่ได้ทำผลงานยอดเยี่ยม เป็นอย่างมาก


ลิเวอร์พูล เปิดบ้าน ถล่มเละ ทีมสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปได้ ในสกอร์ 7-0 ของ ศึกดาร์บี้ พรีเมียร์ลีก ประเทศ อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ 5 มีนาคม พ.ศ. 2566


ผลงานที่น่าจดจำมากมาย ของโอเว่น และเกมการแข่งขันนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งเกมที่ดีที่สุด ของกองหน้ารายนี้ ทำประตูใน พรีเมียร์ลีก ครบ 100 ประตู ด้วยการซัดไป 4 ประตู เอาชนะ เวสต์บรอม ในวันนั้น และอีกสองประตูมาจากการยิงของ นักเตะ มิลาน บารอส

ค.ศ 2007 สามารถเอาชนะ ทีมสโมสร ทีมดาร์บี้ ในฤดูกาล 2006 – 2007 ไปได้ในสกอร์ 6-0 และก็บอกเลยว่า มันเป็นหนึ่งในเกมการแข่งขัน ที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมา ของสโมสรดาร์บี้ ในพรีเมียร์ลีก และมันก็เกิดขึ้นแล้ว ในช่วงต้นปีนั้น

สามารถเอาชนะ ทีมสโมสร นิวคาสเซิ่ล ไปได้ในสกอร์ 6-0 ที่ตอนนั้น ทีมสโมสร นิวคาสเซิ่ล เองก็ทำผลงาน ได้ไม่ค่อยดีมากนัก ในเกมการแข่งขัน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2012 – 2013 และ ก็เป็นฝันร้าย ของ นิวคาสเซิ่ลในช่วงท้ายฤดูกาล

สโมสร แอสตัน วิลล่า ที่โดนถล่ม ไปในสกอร์ 0-6 และ เป็นชัยชนะ ของ หงส์แดง เป็นเกมการแข่งขัน ที่สนาม วิลลา พาร์ค ในช่วง ฤดูหนาวปี 2016 แล้วก็เป็นช่วงสองสามเดือนแรกของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ได้รับบทบาท

เซาแธมป์ตัน พ่ายแพ้ ไปในสกอร์ 1 – 7 ในปี ค.ศ 1999 และก็เป็นชัยชนะ เป็นเกมการแข่งขันที่น่าจดจำด้วยเหตุผลหลายอย่างไม่ใช่แค่ครั้งแรกที่ยิงได้ 7 ประตูในเกมการแข่งขันศึกพรีเมียร์ลีก แต่ยังเป็นเกมที่ ร็อบบี ฟาวเลอร์ สามารถทำแฮททริคได้และก็เป็นการทำประตูให้สโมสรถึง 100 ประตู

คริสตัล พาเลซ เสียประตู ไปมากถึง 0-7 ให้กับ ทีมสโมสร ลิเวอร์พูล ในปี ค.ศ. 2020 เป็นชัยชนะ เกมศึกพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรก ด้วยการทำทั้งหมด 7 ประตู ในช่วงใกล้ สิ้นปี 2020

บอร์นมัธ ที่ก็โดน ถล่มเละ ไปในสกอร์  0 – 9  ในปี ค.ศ 2022 แมตซ์นี้ มันก็เป็นการเก็บชัยชนะ ครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด หงส์แดง เลยก็ว่าได้ และ เป็นเกมการแข่งขัน ที่เกิดขึ้น ในช่วงต้นฤดูกาล

การทำประตู ไปได้ ทั้งหมด 9 ประตู ซึ่งนักเตะ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ที่ท็อปฟอร์มทำคนเดียวไปได้ ทั้งหมด 2 ประตู และ ยังทำได้อีก 3 แอสซิสต์ และก็แบ่งให้เพื่อนร่วมทีม 5 คน ทำประตูร่วมด้วย